ขายฝากโฉนดที่ดิน

สำหรับสัญญาการซื้อขายบ้าน หรือการขายฝากโฉนดที่ดิน จะเป็นสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดิน ซึ่งหากเป็นผู้ซื้อจะต้องทำความเข้าใจกับสัญญาต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีเสียก่อน เพราะหากกำลังซื้อบ้านหรือที่ดินและมีเงินสดมากเพียงพอสำหรับมูลค่าของบ้านและที่ดินเหล่านั้นแล้ว ก็อาจจะชวนเจ้าของบ้านหรือเจ้าของที่เพื่อไปสำนักงานที่ดิน เพื่อทำการซื้อขายที่ดิน และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กันได้ทันที  

แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ซื้อหลาย ๆ คนไม่มีกำลังทรัพย์ที่มากเพียงพอต่อการซื้อขาย จึงจำเป็นต้องกู้เงินมาซื้อ ทั้งนี้ก่อนทำการซื้อขายผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องทำสัญญาระหว่างกัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง 

สัญญาซื้อขายฝากโฉนดที่ดินคืออะไร มีจุดประสงค์ใดบ้าง 

สัญญาการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายที่ดิน หรือการซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จะเป็นสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายนั่นเอง และสัญญาการซื้อขายฝากโฉนดที่ดินยังเป็นการแสดงเจตนาของฝ่าผู้ซื้อว่าต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของผู้ขาย และได้ทำการวางมัดจำเอาไว้เป็นประกัน ว่าจะมีการทำสัญญาการซื้อขายระหว่างกัน และจะเกิดการโอนกรรมสิทธิ์ขึ้นภายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ในขณะเดียวกันสัญญาจะเป็นการแสดงเจตนาของผู้ขาย ที่จะไม่ขายอสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่นตามช่วงเวลาที่กำหนดในระยะของการทำสัญญานั่นเอง 

หากทำสัญญาการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และผิดสัญญา จะมีผลอย่างไรบ้าง 

เชื่อว่าหลายคนจะต้องเกิดข้อสงสัยกันอย่างแน่นอนว่า หากทำสัญญาการซื้อขายที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ และมีการผิดสัญญาจะมีผลอย่างไรบ้าง ซึ่งถ้าหากพ้นจากช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว และผู้ซื้อเกิดเปลี่ยนใจไม่ทำการซื้อต่อไปแล้ว จะเท่ากับว่าผู้ซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญา และฝ่ายผู้ขายจะสามารถยึดเงินมัดจำทั้งหมดนั้นได้  

นอกจากนี้ผู้ขายสามารถขายที่ดินหรืออสังหาฯ ให้แก่ผู้ซื้อรายอื่นในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้ แต่สำหรับกรณีที่ผู้ขายมีการผิดสัญญา ผู้ซื้อจะไม่เพียงแต่เรียกเงินมัดจำคืนได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถฟ้องร้องให้ขายที่ดินหรืออสังหาฯ ให้แก่ตนเองได้ รวมทั้งเรียกร้องค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ได้อีกด้วย 

การทำสัญญาการซื้อขายฝากโฉนดที่ดิน หรืออสังหาฯ จะถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการยืนยันทั้งในฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายว่า จะมีการซื้อขายกันตามจริง และซื้อขายกันตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจการซื้อขายที่ตรงกัน และป้องกันความผิดพลาดในการซื้อขายด้วยนั่นเอง